Vogue Thailand

CELEBRITY

Jimmy Choo บอกเล่าตัวตนของแบรนด์อีกครั้งผ่าน Core Collection ครั้งสำคัญ

แรงบันดาลใจแห่งตัวตนและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สู่คอลเล็กชั่นที่เป็นดั่งรากฐานของแบรนด์

โดย Pannatorn Tamnipanon
28 สิงหาคม 2564

เหตุผลที่ผลงานการออกแบบของ Sandra Choi ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แบรนด์ Jimmy Choo ที่มีต่อ Core Collection นั้นเต็มไปด้วยคริสตัล ไข่มุก และลวดลาย JC โมโนแกรมนั้นก็เพราะว่าเธอต้องการดึงเอาจิตวิญญาณของแบรนด์กลับมาเล่าเรื่องอีกครั้งผ่านคอลเล็กชั่นที่ไร้ฤดูกาลเพื่อตระหนักถึงวิวัฒนาการของเหล่าสุภาพสตรียุคใหม่และความต้องการของพวกเธอที่แตกต่างในแต่ละวัน เป็นการแสดงถึงรากฐานของแบรนด์ที่คงคุณค่าในความเป็นตัวเองพร้อมพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง และยังถือเป็นการเฉลิมฉลองการเดินทางเข้าสู่ปีที่ 2021 โดยแบรนด์จะมีอายุครบ 25 ปีอีกด้วย

 

แซนดร้าเล่าถึงจุดมุ่งหมายของคอลเล็กชั่นในครั้งนี้ว่า “แบรนด์ของเรากำลังจะอายุ 25 ปี เธอพบว่าตัวเองก็เหมือนคนอายุ 25 ส่วนใหญ่ที่มีบุคลิก ลักษณะ และรสนิยมที่เป็นที่ยอมรับ Core Collection นี้จึงเป็นเหมือนภาพสะท้อนของสิ่งเหล่านั้น โดยเริ่มจากการจินตนาการว่าจิมมี่ ชูมีความหมายอย่างไรสำหรับอนาคต เป็นคอลเล็กชั่นชิ้นสำคัญที่จะคงคุณค่าในขณะเดียวกันก็พัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เหมาะกับชีวิตประจำวันของผู้หญิงเหล่านั้น ไม่ว่าจะไปทำงาน เดินเล่น แต่งตัว หรือไปตามสถานที่ต่างๆ ฉันต้องการให้คอลเล็กชั่นนี้เป็นสิ่งที่เพิ่มบางอย่างให้กับทุกช่วงเวลาเหล่านั้น เป็นช่วงชีวิตที่แสนพิเศษของพวกเธอเอง สำหรับฉันแล้วองค์ประกอบในการสร้างสรรค์ที่ทำให้แบรนด์มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างคือความเจิดจ้า ความเป็นแฟนตาซี และการมีดีไซน์ที่เฉียบคม คอลเล็กชั่นนี้จึงบอกกล่าวถึงดีเอ็นเอของเรา แก่นแท้ของเรา ว่าตัวเราคือใครนั่นเอง”   

Article

เพื่อสะท้อนถึงช่วงเวลาเหล่านั้น คอลเล็กชั่นนี้จึงเป็นการแคปเจอร์ซิลูเอตใหม่ๆ เพื่อตอบสนองแง่มุมชีวิตของเหล่าผู้หญิงในทุกๆ วัน ตั้งแต่เช้าไปจนถึงเย็น ตั้งแต่ทางการไปจนถึงสบายๆ หรือจะตั้งแต่เดินเที่ยวในเมืองไปจนถึงชายหาดก็ตาม โดยมีดีเทลที่โดดเด่นอย่างคริสตัล ไข่มุก และลวดลาย JC โมโนแกรมผสมผสานอยู่ในแฟชั่นพีซเหล่านี้ เพื่อเป็นการยกย่องถึงตัวตนอันเด่นชัดและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของแบรนด์ โว้กประเทศไทยจึงพานักแสดงสาวดาวรุ่งมากความสามารถอย่าง “ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” มาร่วมเดินบนเส้นทางสาย จิมมี่ ชู ในคอลเล็กชั่นนี้ไปด้วยกัน

Article

เริ่มกันด้วย “คริสตัล” คือองค์ประกอบสำคัญที่อยู่เคียงคู่กับแบรนด์มาอย่างยาวนาน สะท้อนถึงแสงสว่างและความโดดเด่นคล้ายกับบุคลิกของเหล่าสุภาพสตรีที่เจิดจรัสท่ามกลางผู้คนมากมาย องค์ประกอบนี้สามารถนำเสนอลุคที่แตกต่างกันได้มากมายไม่ว่าจะงดงามในตอนกลางคืน หรือเลือกเป็นลุคมาดมั่นอย่างณิชาบนรองเท้าส้นสูงรุ่น MARTA หรือจะเป็นลุคสบายๆ ในยามบ่ายกับสนีกเกอร์ OSAKA LACE UP พร้อมด้วยกระเป๋าทรงบักเกตที่ขึ้นชื่ออย่างรุ่น BON BON

 

Article

“ไข่มุก” สัญลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ที่เข้ามามีบทบาทในช่วงหลังเป็นการเพิ่มความสง่างามที่ช่วยสร้างเท็กซ์เจอร์ที่แปลกใหม่ ผสมผสานด้วยความละเอียดอ่อน ล้ำค่า แข็งแกร่ง และทรงปัญญา ตีความถึงสุภาพสตรียุคใหม่ที่งดงามทั้งรูปลักษณ์พร้อมมันสมองที่ชาญฉลาด เหมือนลุคสาวมีกึ๋นของณิชากับรองเท้ารุ่น AURELIE โดดเด่นด้วยสาดคาดแต่งมุกพร้อมหัวรองเท้าทรงแหลม หรือจะเป็นความแคชชวลที่ยังไม่ทิ้งกลิ่นอายความเป็นสาวมั่นกับรองเท้าสนีกเกอร์ประดับมุกรุ่น HAWAII F พร้อมกระเป๋าคลัตช์ก็ตาม

Article

องค์ประกอบชิ้นสุดท้ายของคอลเล็กชั่นนี้คือ “JC โมโนแกรม” ลวดลายโมโนแกรมกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของ จิมมี่ ชู ยุคใหม่ โดยแพทเทิร์นได้แรงบันดาลใจมาจากตัวอักษรย่อ JC ที่ไขว้กันอย่างมีความหมาย สะท้อนถึงการเปิดมุมมองใหม่ๆ และคุณค่าที่สะสมมาตั้งแต่ในอดีตของความเป็นแบรนด์เลือดอังกฤษได้อย่างสมบูรณ์ โดยในคอลเล็กชั่นนี้เราจะเห็นได้จากทั้งรองเท้าเอสพาดิลรุ่น DRU FLAT หรือกระเป๋าใบใหญ่คล่องตัวอย่างรุ่น ANA HOBO ในผ้าแจ็กการ์ด

 

นี่เป็นอีกครั้งที่แบรนด์ถ่ายทอดเรื่องราวให้โลกแฟชั่นได้รู้ว่า การคำนึงถึงคุณค่าและความหมายของตัวเองนั้นจะช่วยสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและก้าวต่อไปได้ในอนาคตก็ต้องผสมผสานวิถีทางของยุคใหม่ เพื่อให้แบรนด์เกิดมุมมองที่แตกต่าง และพัฒนาสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง