สัปดาห์แรกของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ (Festival de Cannes) ครั้งที่ 78 ประจำปี 2025 ได้ปิดฉากลงอย่างสวยงามท่ามกลางบรรยากาศสุดหรูและการฉาบแสงแฟลชจากสื่อมวลชนทั่วโลก ในขณะที่พรมแดงยังคงเป็นสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองทางภาพยนตร์และแฟชั่น หนึ่งไฮไลต์ที่สะท้อนภาพการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์วัฒนธรรมโลกอย่างชัดเจนนอกเหนือจากบรรดาเซเลบริตี้ฝั่งตะวันตกแล้ว การปรากฏตัวอย่างคึกคักของคนไทยในปีนี้ก็เป็นที่ถูกพูดถึงเช่นกัน ไม่เพียงการร่วมฉลองเท่านั้นแต่เป็นการประกาศบทบาทใหม่ของประเทศในฐานะผู้เล่นสำคัญบนเกมกระดานอุตสาหกรรมระดับโลก ตอกย้ำความแข็งแกร่งของกระแส ‘Thai Power’ ที่เคยได้ยินอย่างติดหูเริ่มแปรเปลี่ยนจากวาทกรรมสู่การปฏิบัติจริงผ่านตัวตนของศิลปินไทยที่ถูกจับตามองทั้งในแง่ของศักยภาพ ความสามารถ และอิทธิพลทางวัฒนธรรม
A Decade of Dazzle on the Cannes Red Carpet
เปิดประเดิมด้วยขาประจำพรมแดงเมืองคานส์ตลอดกว่าทศวรรษที่ผ่านมาชื่อของ ‘ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต’ แทบจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยในเทศกาลนี้ โดยเธอมีโอกาสได้ร่วมเดินพรมแดงมาตั้งแต่ปี 2013 ในฐานะแขกคนสำคัญจากประเทศไทยและตัวแทนของแบรนด์ต่างๆ ซึ่งนับเป็นใบเบิกทางของอุตสาหกรรมบันเทิงไทยกับเวทีเมืองคานส์ เธอไม่เพียงแต่สร้างปรากฏการณ์ในวงการแฟชั่นผ่านลุคที่หลากหลายแต่ยังแสดงศักยภาพของนักแสดงไทยให้ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก รวมถึงตอกย้ำอิทธิพลและควาเป็นแฟชั่นนิสต้าได้อย่างไร้ข้อกังขา ซึ่งในปีนี้การปรากฏตัวของเธอก็ยังคงได้รับการจับตามองและสามารถเรียกแสงแฟลชจากสื่อมวลชนได้อย่างเช่นเคย กับหนึ่งในลุคไฮไลต์สุดตระการตาของเดรสเกาะอกปักเลื่อมคริสตัลพร้อมเสริมความแวววาวด้วยเครื่องประดับไฮจิวเวลรีจาก Boucheron สะท้อนความหรูหราและถ่ายทอดความสง่างามเหนือกาลเวลาผ่านงานศิลป์ชั้นสูงได้อย่างสมบูรณ์แบบ
A New Era of Thai Talent on the Global Stage
นับเป็นปีที่สองของนักแสดงสาวดาวรุ่ง ‘เบ็คกี้-รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง’ ซึ่งการกลับมาเยือนพรมแดงเมืองคานส์ในปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงอิทธิพลที่กำลังขยับขยายตัวของศิลปินไทยรุ่นใหม่ในระดับสากล ซึ่งย้อนกลับไปในปี 2024 เธอเคยเปิดประเดิมเวทีเมืองคานส์ร่วมกับ ‘ฟรีน-สโรชา’ ท่ามกลางเสียงชื่นชมจากแฟนคลับและสื่อมวลชน ในปีนี้เธอก็ยังคงรักษามาตรฐานได้อย่างดีกับการปรากฏตัวในโททัลลุคโทนชมพูขาวจากแบรนด์ Nicolas Jebran ที่ไม่เพียงสะท้อนความงามแบบเฟมินีนแต่ยังแฝงด้วยความเฉียบคมของสไตล์ยุคใหม่ แมตช์กับรองเท้า Roger Vivier ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้ส่งให้ลุคมีชั้นเชิงและตอกย้ำสถานะแฟชั่นไอคอนรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองผ่านปรากฏการณ์สุดไวรัลจากการปรากฏตัวที่บ่งบอกถึงความสามารถในการยึดพื้นที่ของเทศกาลเมืองคานส์ให้เป็นของเธอในชั่วขณะ นับเป็นอีกหนึ่งโมเมนต์ประวัติศาสตร์ที่ถูกสานต่อจากปีที่แล้ว นอกจากความสามารถเฉพาะตัวแล้วยังชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านสถานะของประเทศไทยจากผู้เล่นในตลาดภายในประเทศสู่ผู้ส่งออกรูปแบบความสดใหม่ของคาแร็กเตอร์และความทรงอิทธิพลของนักแสดง
The Stunning Cannes Debut
อีกหนึ่งนักแสดงที่ได้รับความสนใจและเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม ‘ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวิณิชย์’ ได้พิสูจน์แล้วว่าการเปิดตัวครั้งแรกไม่จำเป็นต้องเป็นเพียงแค่ First Impression แต่สามารถเป็นการวางรากฐานของอัตลักษณ์ในระดับสากลได้ทันที กับการปรากฏตัวในลุคเรียบโก้สีดำขลับของชุดโอตกูตูร์จากแบรนด์ Georges Chakra ที่เปล่งประกายผ่านดีไซน์เหนือกาลเวลาและซิลูเอตอันประณีต เธอสามารถยกระดับภาพลักษณ์ของนักแสดงไทยให้เข้ากับมาตรฐานแฟชั่นชั้นสูงอย่างไร้รอยต่อ นับเป็นการเปิดประเดิมพรมแดงเมืองคานส์ครั้งแรกได้อย่างสมศักดิ์ศรี ด้วยความสามารถ ความมั่นใจ บุคลิกภาพ และความพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาในแวดวงแฟชั่น เธอได้ตอกย้ำและแสดงให้เห็นแล้วว่าการเดบิวต์สามารถเป็นบันไดที่จะช่วยให้ก้าวสู่ความเป็นสากลได้อย่างเต็มภาคภูมิและเป็นการเซ็ตมาตรฐานให้แก่นักแสดงรุ่นต่อไป
First Step into the Spotlight
ไม่เพียงแค่นักแสดงหรือเหล่าคนทำหนังเท่านั้นสำหรับคนไทยที่ได้ไปเฉิดฉายบนพรมแดงเมืองคานส์ การปรากฏตัวของเหล่านางงามจากเวทีระดับโลก Miss Universe Thailand ‘วีณา-ปวีณา ซิงห์’ บนพรมแดงเมืองคานส์ไม่ได้เป็นเพียงมิติของความงามเท่านั้นหากแต่ยังสะท้อนถึงความสามารถของเวทีนางงามไทยในการปั้นบุคลากรที่มีศักยภาพสู่ระดับสากล โดยโททัลลุคไฮไลต์ชุดเดรสคล้องไหล่ระดับโอตกูตูร์อันเป็นผลงานการออกแบบจากแบรนด์ Michael Cinco ที่ตัดเย็บอย่างประณีตจากผ้าซาตินเสริมให้ลุคดูเลอค่าด้วยดีไซน์ที่เผยให้เห็นความอ่อนช้อย แมตช์กับจิวเวลรีจาก Aariya ที่ช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับลุคอย่างไร้ที่ติ แม้จะเป็นการประเดิมพรมแดงปีแรกแต่วีณาก็สามารถสร้างโมเมนต์ของตัวเองได้อย่างเปล่งประกายส่งให้ชื่อของเธอกลายเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของการปรากฏตัวปีนี้
Thai Silk on the Cannes Red Carpet
อีกหนึ่งนางงามจากเวที Miss Grand Thailand ประจำปี 2022 ‘อิงฟ้า วราหะ’ ที่ปรากฏตัวบนพรมแดงเมืองคานส์ในโททัลลุคไฮไลต์อย่างเกาะอกผ้าไหมไทยจากห้องเสื้อไทย Phatrawi Design ในดีไซน์ที่ผสมผสานระหว่างความร่วมสมัยกับวัฒนธรรมไทยถ่ายทอดผ่านโครงคอร์เซ็ตสุดประณีตและเนื้อผ้าในโทนสีฟ้าน้ำทะเล เสริมให้ลุคดูลุ่มลึกและทรงพลัง การปรากฏตัวครั้งนี้นับเป็นการประกาศศักยภาพของแฟชั่นไทยในฐานะเครื่องมือเชิงวัฒนธรรมที่สามารถสื่อสารได้อย่างแข็งแกร่งผ่านการเลือกใช้ผ้าไหมที่สะท้อนถึงการผนวกศิลปหัตถกรรมเข้ากับแฟชั่นระดับโลกได้อย่างชาญฉลาด เหนือไปกว่านั้นคือการสร้างพื้นที่ให้ความเป็นไทยได้มีตัวตนในบริบทที่ได้รับการจับตามองจากสื่อทั่วโลก เปรียบเสมือน Cultural Ambassador ที่นำเสนอวัตถุดิบวัฒนธรรมไทยพร้อมเปิดประตูให้ Thai Textile Narrative เป็นสิ่งที่ก้าวไปสู่ระดับสากล
The Rise of Asian Aesthetic
อีกสองตัวแทนจากประเทศไทยที่ได้เดบิวต์พรมแดงเมืองคานส์ โดยนับเป็นครั้งแรกของวงการ Aesthetic เมืองไทยที่ยกระดับความงามให้ประจักษ์สู่สายตาชาวโลก ในขณะที่พรมแดงระดับโลกยังคงถูกขับเคลื่อนโดยมาตรฐานความงามแบบตะวันตก การปรากฏตัวของ ‘เก้า-นพเก้า เดชาพัฒนคุณ’ ในชุดสูทสุดเนี้ยบจาก Thom Browne และ ‘พีพี-ปุญญ์ปรีดี คุ้มพร้อม รอดสวาสดิ์’ ในชุดเดรสดีไซน์ Cut-out จากแบรนด์ Sorapol London จับคู่กับเครื่องประดับ Swarovski อย่างลงตัว นับเป็นอีกหนึ่งโมเมนต์สำคัญที่น่าจับตามองโดยทั้งคู่ได้ก้าวสู่พรมแดงเมืองคานส์เป็นครั้งแรกในฐานะตัวแทนความงามแบบเอเชียที่โดดเด่นไม่เหมือนใครทั้งยังเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ ตอกย้ำว่าความงามแบบไทยสามารถเฉิดฉายได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก ทั้งสองไม่เพียงปรากฏตัวบนพรมแดงเท่านั้นแต่ยังครองสายตาสื่อได้ อันสะท้อนว่าพรมแดงเมืองคานส์ปีนี้ไม่ได้โดดเด่นแค่แฟชั่นหรือภาพยนตร์ แต่เป็นอีกหนึ่งเวทีสะท้อนความงามแบบเอเชียที่โลกกำลังจับตามอง
A Milestone for the Thai Film Industry
ปิดท้ายด้วยการปรากฏตัวของนักแสดงสาวที่เป็นตัวแทนแห่งความสำเร็จของประเทศไทยในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ครั้งนี้ ‘ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่’ ที่ต่างจากคนอื่นตรงที่เธอมาพร้อมบทบาทนักแสดงนำจากภาพยนตร์ไทยที่ได้เข้าประกวดในสาย Critics Week กับเรื่อง A Useful Ghost (ผีใช้ได้ค่ะ) ผลงานของรัชฏ์ภูมิ บุญบัญชาโชค ที่นับเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกในรอบทศวรรษที่ได้กลับมาเข้าแข่งขันในสายนี้ โดยเธอมาในลุคจาก Gucci ชุดเดรสสีเขียวปาดไหล่ปักเลื่อมทั้งตัวที่ออกแบบมาเป็นพิเศษโดยเฉพาะ มาพร้อมขนเฟอร์เส้นสายฟรินจ์แมตช์กับกระเป๋า Gucci Bamboo ที่ส่งให้ลุคโดดเด่นยิ่งขึ้น มากกว่าการเดินพรมแดงคืออีกหนึ่งความภาคภูมิใจและสะท้อนศักยภาพที่แท้จริงของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยที่ไม่ได้ก้าวอยู่แค่การสร้างรายได้ภายในประเทศแต่พร้อมที่จะแข่งขันในสนามระดับโลก เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าวงการบันเทิงไทยสามารถสร้างอิมแพ็กในระดับสากลได้อย่างแท้จริง
พรมแดงแห่งเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ปี 2025 กลายเป็นเวทีที่คนไทยเฉิดฉายกันอย่างคึกคักและน่าจับตามองในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพล ความสามารถ ศักยภาพ หรือแม้กระทั่งเสน่ห์เฉพาะตัวก็ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงการขยับขยายตัวตนของไทยในอุตสาหกรรมโลกอย่างมั่นคง โดยสิ่งที่น่าจับตามองคือ “ความหลากหลายของบทบาท” ที่คนไทยได้เข้าไปมีส่วนร่วมอย่างน่าภาคภูมิใจ ไม่ว่าจะในฐานะนักแสดงที่ร่วมแสดงในภาพยนตร์ ผู้กำกับเลือดใหม่ที่พาผลงานไปสู่สายตานานาชาติ หรือแม้กระทั่งแบรนด์ไทยที่อยู่เบื้องหลังลุคอันทรงพลังของเหล่าคนดังจากทั่วโลก ทุกองค์ประกอบล้วนแสดงถึงพลังสร้างสรรค์อันแข็งแกร่งที่กำลังเบ่งบานภายใต้ชื่อ ‘THAI POWER’ นี่ไม่ใช่แค่การเฉิดฉายเพียงชั่วครู่แต่เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญที่ตอกย้ำว่าประเทศไทยกำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาระดับโลก และเวลานี้คือจังหวะของไทยอย่างแท้จริง
Photo: Gerson Lirio, Courtesy of Celebrity and Ernesto Ruscio / Getty Images
กราฟิก: สุกฤตา ว่องวัฒนพิบูลย์
(สามารถตามไปอ่านบทความ ‘VOGUE SCOOP | รวม 12 เรื่องน่าจับตามองในเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2025’ ได้ที่นี่)