เมื่อเราเริ่มพูดถึงเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ หรือ Cannes Film Festival แน่นอนว่าสองสิ่งแรกที่จะวิ่งเข้ามาในความคิดแรกของเราพร้อมๆ กันก็คือ ลิสต์ภาพยนตร์น่าจับตามอง และพรมแดงเมืองคานส์ ทั้งสองสิ่งนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความคึกคักให้กับเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์มานานหลายปี โดยเฉพาะพรมแดงเมืองคานส์ ที่ช่วยขยับขยายพื้นที่ให้เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์กลายเป็นมากกว่าพื้นที่ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ แต่ยังกลายเป็นพื้นที่สำคัญของการแข่งขันด้านการตลาดของอุตสาหกรรมแฟชั่นลักชัวรีและจิวเวลรีกันอย่างเข้มข้นมาจนถึงปัจจุบัน หลายแบรนด์กลายเป็นดาวเด่นประจำปี กระทั่งส่งผลถึงกระแสของแบรนด์นั้นๆ ในเวลาต่อมา หรือแม้แต่บางแบรนด์ก็แจ้งเกิดบนพรมแดงแห่งนี้มาแล้วพร้อมๆ กับเซเลบริตี้ที่เดินทางมาอวดโฉมอย่างคับคั่งจากทั่วทุกมุมโลก
ไม่เพียงเท่านั้น หากพิจารณาให้ลึกลงไปเราก็จะเห็นเหมือนกันว่า Cannes Film Festival นอกจากจะเป็นพื้นที่สำหรับโลกภาพยนตร์ แฟชั่น และเซเลบริตี้แล้ว พื้นที่ของเทศกาลนี้ยังผูกโยงกับ ‘การเมือง’ มาแต่ไหนแต่ไรอย่างที่ไม่อาจแยกออกจากกันได้ หลากหลายการเคลื่อนไหวที่มีนัยยะสำคัญทางการเมืองถูกขับเคลื่อนอย่างโจ่งแจ้งบนพรมแดงเมืองคานส์แห่งนี้
ย้อนกลับไปในปี 2018 การเมืองเรื่องความเท่าเทียมทางเพศก็ได้เดินทางมาเยือนพรมแดงเมืองคานส์ ครั้งที่ 71 อย่างกล้าหาญ ในช่วงเวลาที่คดีความสุดอื้อฉาวของ Harvey Weinstein กำลังถูกประณามอย่างหนักหน่วง และผู้หญิงในวงการสื่อและวงการบันเทิงต่างดาหน้าออกมาจากมุมมืดเพื่อสู่กลับความอยุติธรรม เพื่อประกาศให้โลกนี้รู้ว่าพวกเธอเป็นเหยื่อของปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศที่ถูกซุกอยู่ใต้พรมมานาน เกิดเป็นกระแส #MeToo หรือในฝรั่งเศสใช้คำว่า Moi Aussi เพื่อสะท้อนถึงภาวะเพื่อหญิงพลังหญิงไม่ทิ้งกัน และกระแสไวรัลดังกล่าวก็ไม่ได้จบลงแค่ในโลกโซเชียลมีเดีย แต่ลามมาจนถึงเมืองคานส์ในที่สุด โดยการนำของ Cate Blanchett, Kristen Stewart, Marion Cotillard, Ava DuVernay, Léa Seydoux, Khadja Nin และผู้หญิงอีกหลายชีวิต รวม 82 ชีวิต ที่ร่วมกันจับมือเดินเรียงหน้ากระดาน เพื่อแสดงออกถึงการต่อต้านทุกความไม่เท่าเทียมทางเพศในอุตสาหกรรมบันเทิงและภาพยนตร์
โดยตัวเลข 82 นั้นยังมีนัยยะสำคัญในฐานะของจำนวนภาพยนตร์ที่ถูกกำกับโดยผู้หญิง ที่ได้เข้าฉายในรอบปฐมทัศน์ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ตลอดหน้าประวัติศาสตร์ 71 ปีที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นเรื่องน่าเศร้า เมื่อเทียบกับผลงานภาพยนตร์ของผู้กำกับชายที่มีมากถึง 1,645 เรื่อง ในเวลานั้น
บนพรมแดงงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ครั้งที่ 71 นั้น Cate Blanchett ยังได้มีถ้อยแถลงต่อหน้าสาธารณชนในงาน ถึงจุดยืนของผู้หญิงทั้ง 82 คนที่เดินพรมแดงในครั้งนั้นด้วยว่า ว่า "พวกเราคือตัวแทนของผู้กำกับหญิง 82 คน ที่เคยมีโอกาสได้มายืนบนขั้นบันไดของพรมแดงแห่งนี้ นับตั้งแต่การเกิดขึ้นครั้งแรกของเทศกาลหนังเมืองคานส์บนหน้าประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมภาพยนตร์ในปี 1946 ขณะที่มีจำนวนผู้กำกับชายมากถึง 1,688 คน ที่เคยได้มายืนตรงนี้ และรางวัลปาล์มทองคำอันทรงเกียรติ ก็ได้ถูกมอบให้ผู้กำกับชายมากถึง 71 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากเกินกว่าจะสามารถกล่าวถึงชื่อของพวกเขาเหล่านั้นได้หมด ทว่ามีผู้กำกับหญิงเพียงแค่สองคนเท่านั้นที่ได้รับรางวัลนี้"
แม้ว่าจุดประสงค์ของการเรียกร้องในเวลานั้นจะได้ขีดเส้นตายให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์สร้างความเท่าเทียมทางเพศให้เกิดขึ้นจริงภาพยนตร์ในปี 2020 ผ่านเข็มกลัดสัญลักษณ์ 50/50 บนหน้าอกของผู้หญิงทั้ง 82 ชีวิต แต่ก็อย่างที่เราเห็นกันว่าการเรียกร้องเพื่อขับเคลื่อนมักใช้เวลาอันยาวนานเสมอ กระทั่งในปัจจุบันก็ยังคงมีการเรียกร้องเกี่ยวกับสิทธิสตรีในโลกภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง
(สามารถตามไปอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ Cannes Film Festival เพิ่มเติมได้ที่ https://www.vogue.co.th/fashion/inspirations/article/dior-archive-cannes-film-festival-2025)