โดยก่อนหน้านี้ทางฝั่งจุฬาฯ มักใช้รูปแบบที่พยายามล้ำนำสมัยอยู่ตลอด ในปีที่แล้วเป็นตัวอย่างของการเล่นสีชมพูเพื่อสะท้อนถึงเอกลักษณ์ความเป็นนิสิตรั้วจามจุรี โดดเด่นด้วยดีเทลของชุดขาสั้นและแจ็คเก็ตตัวนอกที่เพิ่มมิติด้วยลวดลายในเฉดสีชมพูที่เข้มขึ้น ส่วนชุดช่วงเย็นของรุ่น 72 เป็นการใช้โทนสีเงินเมทัลลิก เทา และขาวเพื่อสะท้อนถึงความล้ำแบบฟิวเจอริสติก ประกอบกับเมกอัพทำให้ชุดสุดเซอร์เรียลปีที่แล้วของจุฬาฯ ดูสนุกล้ำนำสมัยแต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไว้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งหมดจากแบรนด์ Naphon K. Bangkok
แต่ก่อนเราจะเห็นชุดเชียร์ลีดเดอร์ของทั้งจุฬาฯ และธรรมศาสตร์ออกมาในรูปแบบเซอร์เรียลเหนือจริงผ่านกรอบความคิดธีมรูปแบบต่าง ๆ ที่ส่วนใหญ่แล้วมักจะใช้ไม่ได้จริงในชีวิตปกติทั่วไป เพราะความต้องการที่จะทำให้ "TUCL" และ "CUCL" โดดเด่นจึงต้องเลือกชุดค่อนข้างแฟนตาซี การจัดเรียงเลเยอร์หลายชั้นรวมถึงองค์ประกอบและรายละเอียดของชุดที่สอดแทรกเข้าไปอยู่ในทุกสัดส่วนเพื่อให้ชุดออกมาปังและอลังการที่สุด ชวนให้ผู้เข้าร่วมงานไม่ว่าจะฝั่งไหนสะดุดตากับชุดลีดทั้ง 2 สถาบัน และเป็นเช่นนี้มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว วัฒนธรรมนี้ส่งผ่านและกระจายไปทั่วประเทศเห็นได้จากชุดของผู้นำเชียร์ของกีฬาสีหรืองานกิจกรรมต่าง ๆ ทั่วประเทศ ที่นำเสนอความสวยงามของชุดผ่านความ "เยอะ" ซึ่งก็ไม่ได้ผิด ถือเป็นแนวทางในการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อความสวยงามรูปแบบหนึ่งตามยุคสมัย ถ้าเปรียบผลงานบนรันเวย์คงจะเป็น Jeremy Scott ในคอนเซปต์ "More is More"

เผยเบื้องหลังฝันที่เป็นจริงของนางแบบสาวข้ามเพศที่มีโอกาสเดินในโอต์ กูตูร์แฟชั่นวีก

โว้กพาเจด้าเข้าร่วมชมโชว์จาก Longchamp ในนิวยอร์กแฟชั่นวีคกระทบไหล่ Kendall Jenner และ Kate Moss




