Dior ถือเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการนำเสนอรากฐานวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ รูปแบบการสร้างสรรค์งานนิทรรศการจึงเพียบพร้อมด้วยวิถีแห่ง Monsieur Christian Dior ที่ถ่ายทอดตั้งแต่สมัยดั้งเดิมจนถึงปัจจุบัน โดยนิทรรศการสำคัญของแบรนด์ที่ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลกคือ Christian Dior: Designer of Dreams ที่เคยจัดแสดงอย่างโดดเด่น ณ Musée des Arts Décoratif สถานที่สำคัญทางศิลปะกลางกรุงปารีส จากความสำเร็จครั้งนี้แบรนด์ต่อยอดกับการนำเสนอนิทรรศการครั้งสำคัญนี้สู่ดินแดนตะวันออกกลาง
ท่ามกลางช่วงเวลาอันคึกคักของ Riyadh Season ประจำปี 2024 งานอีเวนต์อันยิ่งใหญ่ในกรุงริยาดห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ที่เชื่อมผสานวัฒนธรรม ความบันเทิง และการนำเสนอแง่มุมทางศิลปะในสเกลระดับยักษ์ใหญ่ โดยแบรนด์ได้ Florence Müller มาดูแลเรื่องบทบรรยายอันเปี่ยมคุณภาพ พร้อมทั้ง Nathalie Crinière ที่จัดฉากความงดงามของนิทรรศการจนสะกดตาผู้ชม ซึ่งฝีมือของทั้งคู่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวเส้นทางความสร้างสรรค์ตลอดอายุกว่า 7 ทศวรรษของเมซงดิออร์ได้อย่างมีนัยสำคัญ
การจำลองหัวใจหลักของเมซง ณ 30 Montaigne คือวิถีที่ทำให้ทุกคนเข้าใจถึงรากฐานความสำเร็จของดิออร์ “realm of dreams” คือมิติที่ยิ่งใหญ่ในการสร้างสรรค์ผลงานโอตกูตูร์ให้มีชีวิตชีวา พร้อมเจาะลึกเรื่องราวไปกับวิถีแห่งศิลปะที่คริสเตียน ดิออร์ชื่นชอบก่อนจะมาเป็นกูตูริเยร์ ซึ่งประวัติชีวิตการเป็นเจ้าของแกลอรี่ เปิดโลกให้ผู้คนได้เห็นการมองภาพและตีความศิลปะ สะท้อนภาพความล้ำลึกในการสร้างสรรค์ผลงานที่ไม่เพียงแต่ใส่ใจเรื่องรายละเอียดแฟชั่น แต่หยั่งรากไปถึงการเสพศิลป์ที่เปี่ยมด้วยความหมาย
วิถีแห่งงานศิลปะถูกถ่ายทอดในหลายองค์ประกอบ อาทิเช่น ผลงานจิตรกรรมพอร์เทรตของ Yan Mei-Ping ที่สอดแทรกร่วมกับการนำเสนอเรื่องราวของผู้สืบทอดของเมซง เชื่อมประสานกับผลงานการออกแบบที่เมซงอุทิศความสำคัญถึงประวัติศาสตร์การริเริ่ม Miss Dior ไลน์เรดี้ทูแวร์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์โดย Marc Bohan ดีไซเนอร์ระดับตำนานที่สานต่อและพัฒนาความสำเร็จให้ดิออร์ก้าวเข้าสู่โลกแฟชั่นร่วมสมัยและเป็นรากฐานสำคัญจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการสร้างสรรค์ของ Philippe Guibourgé ที่ในนิทรรศการครั้งนี้ชวนให้นึกถึงบรรยากาศแห่งยุค ‘60s อันเปี่ยมเสน่ห์
จาก Miss Dior สู่ J’adore เส้นทางการเดินหน้าสู่ความสำเร็จของเมซงที่มีธีมอันหลากหลาย การจัดแสดงที่มุ่งเน้นสะท้อนภาพมิติที่ลื่นไหลของดิออร์ตั้งแต่มนต์เสน่ห์ของพระราชวังแวร์ซายส์ที่โดดเด่นเรื่องงานฉลองและปาร์ตี้ หรือจะเป็น Diorama กับวิถีการรังสรรค์จิวเวลรีที่มีเรื่องราวสำคัญทั้งเบื้องหลังต่อยอดสู่เบื้องหน้า รวมถึง The Lady Dior กระเป๋าที่โดดเด่นในเชิงศิลปะด้วยโปรเจกต์ Dior Lady Art ที่ปรากฏอย่างเด่นชัดโดยการคัดสรรของเมซงมามากกว่า 9 ครั้ง ทั้งหมดนี้ถูกนำเสนอผ่านผลงานนิทรรศการอันยิ่งใหญ่ที่โยกย้ายจากกรุงปารีสสู่กรุงริยาดห์ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
การจัดแสดงนิทรรศการครั้งสำคัญ ณ กรุงริยาดห์ครั้งนี้สะท้อนภาพความงดงามเชิงศิลปะและวัฒนธรรมผ่านมิติทางธรรมชาติ พื้นที่โอเอซิส Al-’Ula มรดกอันตราตรึงในเขตเมดิน่าถูกเนรมิตให้กลายเป็นพื้นที่อันสวยสดงดงาม พร้อมสอดแทรกด้วยความสวยงามของพืชพันธุ์ เชื่อมโยงถึงชื่อกรุงริยาดห์ที่แปลว่า “สวน” ในภาษาอาราบิก และนำเสนอลุคที่คลุกเคล้ากลิ่นอายความโรแมนติก เกิดเป็นบรรยากาศแห่งโลกกูตูร์ที่ทรงคุณค่าเหนือคำบรรยาย โดยนิทรรศการนี้เริ่มจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านมา และจะจัดยาวนานต่อเนื่องไปถึงวันที่ 2 เมษายน 2025 ใครกำลังมองหาจุดหมายด้านแฟชั่นอันน่าสนใจ เก็บนิทรรศการนี้ไว้ในใจไว้ได้แน่นอน ติดตามชมภาพบรรยากาศของนิทรรศการได้แล้วที่ด้านล่าง
1 / 73
2 / 73
3 / 73
4 / 73
5 / 73
6 / 73
7 / 73
8 / 73
9 / 73
10 / 73
11 / 73
12 / 73
13 / 73
14 / 73
15 / 73
16 / 73
17 / 73
18 / 73
19 / 73
20 / 73
21 / 73
22 / 73
23 / 73
24 / 73
25 / 73
26 / 73
27 / 73
28 / 73
29 / 73
30 / 73
31 / 73
32 / 73
33 / 73
34 / 73
35 / 73
36 / 73
37 / 73
38 / 73
39 / 73
40 / 73
41 / 73
42 / 73
43 / 73
44 / 73
45 / 73
46 / 73
47 / 73
48 / 73
49 / 73
50 / 73
51 / 73
52 / 73
53 / 73
54 / 73
55 / 73
56 / 73
57 / 73
58 / 73
59 / 73
60 / 73
61 / 73
62 / 73
63 / 73
64 / 73
65 / 73
66 / 73
67 / 73
68 / 73
69 / 73
70 / 73
71 / 73
72 / 73
73 / 73