‘พ่อมดแห่งวงการแฟชั่น’ คือฉายาที่เหมาะสมที่สุดของดีไซเนอร์ที่มีความอัจฉริยะที่สุดคนหนึ่งที่อุตสาหกรรมแฟชั่นระดับโลกเคยมีมา เขาคนนั้นคือ John Galliano ดีไซเนอร์ลูกครึ่งอังกฤษ-สเปน ซึ่งกรุยทางเริ่มต้นบนหนทางการเป็นดีไซเนอร์ระดับโลกด้วยดีกรีบัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่งด้านแฟชั่นจากสถาบันอันเลื่องชื่ออย่าง Saint Martin’s School of Art ก่อนที่ในปี 1995 จอห์นจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนักออกแบบประจำแบรนด์ Givenchy โดย Bernard Arnault ผู้ดูแลบริษัท LVMH คนสำคัญ โดยจอห์นได้นำเสนอผลงานโอตกูตูร์เป็นครั้งแรก ณ สนามกีฬา Stade de France ซึ่งคอลเล็กชั่นนั้นได้รับการยกย่องจากสื่อแฟชั่นอย่างล้นหลาม และในปีต่อมา ปี 1996 LVMH ก็ได้โยกย้ายจอห์น ให้ไปทำหน้าที่กุมบังเหียนแบรนด์ Christian Dior แทนที่นักออกแบบชาวอิตาเลียนคนก่อนหน้าอย่าง Gianfranco Ferré ซึ่งที่นั่นเองที่ทำให้ชื่อของ จอห์น กัลลิอาโน ถูกกล่าวขานมาจนถึงทุกวันนี้
ไม่เพียงเท่านั้น เพราะยังมีชุดลายพิมพ์หนังสือพิมพ์อันเลื่องชื่อบนรันเวย์โชว์คอลเล็กชั่นเสื้อผ้าสำเร็จรูปของดิออร์ ประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ปี 2000 ที่ต่อมาได้กลายเป็นชุดไอคอนิกตลอดกาลไปโดยปริยาย, ชุดที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมอียิปต์โบราณ ซึ่งถูกนำมาเล่าใหม่อีกครั้งให้ดูโมเดิร์นกว่าเดิม บนรันเวย์โชว์คอลเล็กชั่นโอตกูตูร์ ประจำปี 2004 เรื่อยไปจนถึงคอลเล็กชั่นประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ปี 2007 ของดิออร์ หรือที่คนแฟชั่นส่วนใหญ่เรียกกันง่ายๆ ติดปากว่า ‘คอลเล็กชั่น Madame Butterfly’ กับการผสมผสานวัฒนธรรมการแต่งกายในฝั่งเอเชียอาคเนย์เข้าไปอย่างเต็มเปี่ยมและลงตัว ทั้งรายละเอียดของลวดลายพิมพ์ ไปจนถึงซิลูเอตการตัดเย็บ ที่ทำให้นักวิจารณ์ชื่อดังหลายคนในเวลานั้นต่างออกปากชมว่าเป็นคอลเล็กชั่นผลงานที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นอัจฉริยะของจอห์นได้อย่างชัดเจนทีเดียว และต่างกล่าวขานว่า “ห้องเสื้อ Christian Dior ในยุคที่ จอห์น กัลลิอาโน เถลิงอำนาจนั้น นับเป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุดยุคหนึ่งก็ว่าได้”
Starting Over - ภารกิจแลกเปลี่ยนชุดของ John Galliano และ Tomo Koizumi ดัดแปลงชุดงานเมท กาล่าของริฮานน่า
เมื่อคนดังพูดไม่คิด! ย้อนบทเรียน 'รักฮิตเลอร์' ของ John Galliano ผู้สร้างอาชญากรรมคำพูดเหยียดยิว
John Galliano เปิดตัวไลน์ใหม่ของ Maison Margiela ที่โฟกัสเรื่องความยั่งยืนโดยเฉพาะ