Gucci, Gucci Horsebeat Society, Gucci Horsebit, Gucci Horsebit Bag, Gucci Horsebit Loafers, Horsebit Loafers

FASHION

Gucci Horsebeat การเฉลิมฉลอง 70 ปีของสัญลักษณ์ Horsebit อันเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ทางศิลปะ

สัญลักษณ์ Horsebit อันเลื่องชื่อจากรองเท้าคู่ไอคอนิกเมื่อ 7 ทศวรรษก่อน ถูกตีความและนำเสนอใหม่แบบฉบับความไร้กฎเกณฑ์ทางศิลปะ

โดย Nattanam Waiyahong
22 มิถุนายน 2566

     ในหน้าประวัติศาสตร์แฟชั่นต้องบอกว่ามีสัญลักษณ์สำคัญของแบรนด์ต่างๆ ที่เป็นอมตะยาวนานหลายทศวรรษไม่มากนัก ส่วนใหญ่เป็นลวดลายโลโก้บ่งบอกถึงแบรนด์อย่างตรงไปตรงมา สัญลักษณ์อื่นๆ จะถูกจดจำในช่วงเวลาหนึ่ง สั้นยาวต่างกันไป แต่จุดหมายปลายทางคือความเลือนรางด้านความนิยม ก่อนจะค่อยๆ สูญสลายหายไป บ้างก็กลับมาแวะเวียนสู่โลกแฟชั่นอีกครั้ง แต่อีกไม่น้อยก็สาบสูญตลอดกาล ซึ่งหนึ่งในสัญลักษณ์ของแบรนด์ Gucci ที่คงอยู่มายาวนานถึง 7 ทศวรรษ คือ “Horsebit” โลโก้ที่ตอนนี้ยังคงถูกนำมาประดับกระเป๋า รองเท้า และแอ็กเซสเซอรี่จำนวนมากอยู่เสมอ

     ช่วงระหว่างมิลานแฟชั่นวีกของฝั่งบุรุษ กุชชี่นำเสนอโชว์คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2024 พร้อมทั้งโชว์เคสเฉลิมฉลอง 70 ปีแห่งรองเท้าโลเฟอร์ประดับตกแต่งโลหะ หรือที่รู้จักกันในนาม “Horsebit Loafer” โดยงานนี้มีชื่อว่า “Gucci Horsebeat Society” ซึ่งสะท้อนเรื่องราวความน่าสนใจของรองเท้าคู่ไอคอนิก พร้อมทั้งจัดสรรศิลปินจากหลากหลายแขนงเพื่อศึกษาและตีความสัญลักษณ์อันเป็นตำนานนี้ในรูปแบบที่ฉีกกรอบความคลาสสิกดั้งเดิม งานดังกล่าวเพิ่งจบไปเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2023 ที่ผ่านมา โว้กจึงขอสรุปรวบยอดให้ผู้อ่านทุกคนสัมผัสประสบการณ์ครั้งนี้แบบรวบรัดไปพร้อมกัน

     งานดังกล่าวได้รับการจัดแจงชนิดเนี้ยบทุกกระเบียดนิ้วโดย Alessio Ascari ผู้อำนวยการสร้างสรรค์ของ Spazio Maiocchi พื้นที่ทางสังคมที่เปิดโอกาสในการจัดแสดงผลงานศิลปะหลากหลายประเภทกลางกรุงมิลาน เขาใส่ใจทั้งเรื่องศิลปะ แฟชั่น และเรื่องจังหวะดนตรีที่ผสมผสานกับภาพอย่างสมบูรณ์แบบ ความอมตะดั้งเดิมของ Horsebit Loafer ที่ถูกสรรสร้างมาตั้งแต่ปี 1953 โดย Aldo Gucci จึงถูกนำมาคลุกเคล้ากลิ่นอายศิลปะแบบใหม่เพื่อเปิดประสบการณ์ความน่าสนใจในแบบที่แฟนๆ กุชชี่อาจไม่เคยเห็นมาก่อน

     ภายในงานครั้งนี้ได้ศิลปินชั้นนำมาร่วมงานมากมายไล่ตั้งแต่ Harry Nuriev ศิลปินชาวรัสเซียที่ตั้งรกรากการทำงาน ณ กรุงนิวยอร์กและปารีสที่พลิกโฉมโซน “Courtyard” ให้ออกมาเป็นงานสถาปัตยกรรมกึ่งศิลปะสุดเรียบง่ายแต่ทรงพลัง, Anna Franceschini ศิลปินด้านภาพที่เก่งกาจด้านการสร้างพื้นที่อันล้ำลึกก็ทำให้การจัดแสดงผลงาน Horsebit ดูมีชั้นเชิงเหนือระดับ, Ed Davis กราฟิกดีไซเนอร์ชาวออสซี่ก็เนรมิตสัญลักษณ์ของกุชชี่หลากหลายรูปแบบคลุกเคล้าจนเกิดเป็นศิลปะจัดแสดงสุดจัดจ้าน, Candela Capitán นักออกแบบท่าเต้นก็มาพร้อมศิลปะการแสดงที่นำเสนอการเคลื่อนไหวด้วยการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชม, ก้าวมาถึงศิลปินสายดิจิทัล Blatant Space ก็ออกแบบงานเหนือจินตนาการผ่านเครื่องมือล้ำสมัยอย่าง AI ชวนผู้ชมดำดิ่งสู่ห้วงแห่งความคิดแสนเซอร์เรียล, Levi Pitters ประติมากรเลื่องชื่อมาพร้อมโต๊ะไม้เรียบง่ายแต่แฝงด้วยขาโต๊ะเสมือนขามนุษย์ที่สวมใส่เสื้อผ้ากุชชี่และรองเท้าโลเฟอร์คู่อมตะ, Bolade Bonjo ช่างภาพจากอังกฤษนำเสนอความเรียบง่ายของภาพถ่ายที่สะท้อนเรื่องราวชีวิตคนอย่างเหมาะเจาะพอดีกับพื้นที่, Gyugan Lee ดีไซเนอร์สมองเพชรเองใช้จุดเด่นเรื่องการพลิกโฉมกล่องเรียบง่ายสู่สัญลักษณ์ของกุชชี่อย่างโดดเด่น, Charlie Engman ช่างภาพอีกคนที่ร่วมเนรมิตพื้นที่ด้วยภาพถ่ายยิ่งใหญ่ราวกับเรื่องราวแฟนตาซี ปิดท้ายด้วย Sylvie Fleury ที่สร้างรายละเอียดการตกแต่งห้องในโซน 4 ร่วมกับชาร์ลีอย่างมีนัยสำคัญ ผลงานทั้งหมดไม่เพียงแต่สะท้อนรูปแบบงานศิลปะหลากหลายประเภท แต่ยังแสดงให้เห็นว่า “Horsebit” คือสัญลักษณ์แห่งความสากลที่ผนวกเข้ากับศิลปะจากศิลปินทั่วทุกมุมโลกได้อย่างน่าตื่นเต้น โว้กรวบรวมภาพในงานครั้งนี้ให้แฟนๆ ได้ชมด้านล่าง