“What you wear is how you present yourself to world, especially today, when human contacts are so quick. Fashion is instant language.” ประโยคแสนธรรมดาที่แฝงไปด้วยความรู้จริงเกี่ยวกับสังคมโลกแฟชั่นนี้ มีสุภาพสตรีอัจฉริยะแห่ง Prada ที่เรากำลังจะกล่าวถึงในลำดับต่อไปนี้เป็นเจ้าของ ที่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า แท้จริงแล้วแบรนด์แฟชั่นสุดโด่งดังอย่าง Prada นั้น ไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นโดยไลน์การผลิตเสื้อผ้าของสุภาพสตรีเท่านั้น แม้ว่าจะมีสุภาพสตรีอย่าง Mucia Prada ดีไซน์เนอร์อัจฉริยะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแบรนด์แฟชั่นนี้ก็ตาม... ดังนั้นเมื่อเราจะร่ายยาวถึงเรื่องราวของแบรนด์แฟชั่นอย่าง Prada แล้ว ก็คงจะต้องให้เกียรติมิวเซีย ปราด้า แห่งแบรนด์แฟชั่นนี้ด้วยเช่นกัน กับดีไซเนอร์หญิงสัญชาติอิตาเลียน ที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่หัวเมืองแฟชั่น ในประเทศอิตาลีอย่างกรุงมิลาน และยังมีความน่าสนใจในชีวิตของ มิวเซีย ปราด้าอยู่ที่ เธอไม่ได้เรียนจบด้านการดีไซน์ หรือศิลปะการออกแบบใดๆ หากเธอจบการศึกษาระดับปริญญาเอก ในคณะรัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย Universita Degli Studi ด้วยวัย 24 ปีเท่านั้น
ไม่เพียงเท่านั้น เพราะแบรนด์ปราด้ายังขยับขยายตัวเองให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากมายตั้งแต่ไลน์สินค้าประเภทน้ำหอม ไปจนถึงด้านเทคโนโลยีที่ครั้งหนึ่ง ปราด้ายังเคยเผยแพร่สมาร์ทโฟนสุดล้ำในนามของปราด้า ร่วมมือกับแบรนด์ LG ในปี 2007 ที่นับเป็นการขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคให้คนทั่วไปได้หันมาสนใจ และรู้จักแบรนด์ปราด้ามากยิ่งขึ้นกว่าเก่า ก่อนที่ผลงานตลอดหลายสิบปีที่มิวเซีย ปราด้าได้ลงมือทำนั้น จะส่งผลให้เธอได้กลายเป็นสุภาพสตรีหนึ่งใน 79 คนทั่วโลกที่มีพลัง และทรงอิทธิพลที่สุดโดยการจัดอันดับของ Forbes จนได้ในที่สุด พร้อมคำเรียกขานว่า ดีไซเนอร์สาวอัจฉริยะ อีกด้วยเช่นกัน มาถึงตอนนี้แบรนด์ปราด้าก็ยังคงสร้างสรรค์ และผลิตคอลเล็กชั่นของเสื้อผ้า น้ำหอม และเครื่องสำอางออกมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โลโก้เดียวกันของบ้านแฟชั่นแห่งนี้ พร้อมกับการยึดหลักปรัชญาสำคัญของแบรนด์เรื่อยมา ที่พร้อมแสดงออกผ่านคุณภาพ อันเป็นเลิศของผลงาน ที่ผสมผสานแนวระหว่างความคิดใหม่ กับกระบวนการผลิตสินค้าที่ยอดเยี่ยมสืบสานมาเป็นเวลายาวนาน ซึ่งวิธีการนี้ยังถูกนำมาใช้ประยุกต์ให้กับทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิตของแบรนด์ โดยเริ่มตั้งแต่การสร้างแนวความคิดในการออกเพื่อนำไปเลือกสรรวัตถุดิบ การวางแผนการผลิตเพื่อการจัดจำหน่าย การวางแผนสื่อโฆษณาเพื่อกลยุทธ์ทางการสื่อสาร ทั้งหมดนี้คือความคิดสร้างสรรค์ แบบลูกโซ่ ที่พร้อมร้อยเรียง และนำไปสู่คุณภาพที่ยอดเยี่ยมที่สุดต่อไป
เปิดประวัติแบรนด์ Hermès จากร้านทำอานม้าสู่แบรนด์กระเป๋าที่แค่มีเงินก็ซื้อไม่ได้!