ณ ดินแดนที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและมนต์เสน่ห์แห่งงานฝีมือ Dior Gold House ได้เปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือนให้ก้าวเข้าสู่ ‘อาณาจักรแห่งความฝัน’ ที่ Christian Dior หลงใหล พร้อมถ่ายทอดจินตนาการอันวิจิตรของแฟชั่น ความประณีตของงานศิลป์ และวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของไทยผ่านประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน

View this post on Instagram

A post shared by Vogue Thailand (@voguethailand)

‘ตู-ต้นตะวัน’ เฮาส์แอมบาสเดอร์ของ Dior กับเบื้องหลังผลงานสานกระเป๋า Lady Dior และ Dior Book Tote สุดไอคอนิกที่สตูดิโอของแบรนด์ Vassana ที่จะพาทุกคนไปสัมผัสประสบการณ์จริงผ่านงานหัตถศิลป์สุดพิเศษ เพื่อจัดแสดง ณ Dior Gold House

โดย Vassana เป็นแบรนด์เครื่องจักสานสัญชาติไทยที่มุ่งมั่นในการถ่ายทอดความเป็นเลิศของภูมิปัญญาและความชำนาญของชุมชนท้องถิ่น ด้วยความหลงใหลในงานสานตะกร้าไม้ไผ่ของ ‘วาสนา สายมา’ ผนวกกับความปรารถนาที่จะฟื้นคืนศิลปะประเภทนี้เกิดเป็นการผสมผสานลวดลายดั้งเดิมเข้ากับเทคนิคการออกแบบที่สร้างสรรค์ ปัจจุบัน Vassana บริหารงานโดย ‘สาวิน สายมา’ ผู้เป็นบุตรชาย ซึ่งยังคงมุ่งมั่นนำเสนอผลงานที่บอกเล่าเรื่องราวงานฝีมือไทยผ่านผลงานศิลปะอันประกอบด้วยชุดผลงานที่ตีความกระเป๋า Lady Dior ใหม่ด้วยไม้ไผ่สาน แต่ละชิ้นได้รับแรงบันดาลใจจากภาพดอกไม้ที่เบ่งบานอย่างงดงามและชวนให้นึกถึงอดีต

Dior Gold House สถานที่สะท้อนความหลงใหลในงานศิลปะของ Christian Dior จัดแสดงผลงานของศิลปินไทยผู้มีชื่อเสียง 9 คน ผสมผสานกับวัฒนธรรมและความชำนาญ ร่วมยลโฉม Dior Gold House และสัมผัสประสบการณ์อันน่าหลงใหลใน ‘อาณาจักรแห่งความฝัน’ ที่ได้รับการสร้างสรรค์ใหม่

View this post on Instagram

A post shared by Vogue Thailand (@voguethailand)

‘คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส’ เฮาส์แอมบาสเดอร์ของ Dior พาเปิดประตูสู่ Dior Gold House ดินแดนแห่งความฝันที่ซึ่งทำให้แฟชั่นในจินตนาการของเธอกลายเป็นจริง พร้อมดื่มด่ำกับผลงานอันน่าหลงใหลของ Maria Grazia Chiuri ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยความประณีต ไม่ว่าจะเป็นเดรส รองเท้า หรือกระเป๋า Lady Dior ที่จัดแสดงในแต่ละห้องอย่างตระการตา

Dior Gold House สถานที่ที่ผสมผสานวัฒนธรรมเข้ากับงานฝีมือได้อย่างลงตัว เชิญชวนให้เหล่าผู้มาเยือนได้สัมผัสประสบการณ์อันน่าหลงใหลราวกับหลุดเข้ามาสู่ ‘อาณาจักรแห่งความฝัน’ ที่ถูกตีความขึ้นมาใหม่และเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ผ่านโครงสร้างอาคารที่จำลองมาจากสถาปัตยกรรมของอาคารเลขที่ 30 บนถนนมงแตญ (Montaigne) กรุงปารีส ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนสวรรค์ที่เปี่ยมไปด้วยพืชพรรณไม้นานาชนิด กับพื้นที่ขนาดกว่า 1,000 ตารางเมตรที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีทองอร่าม สีอันเป็นสัญลักษณ์นิรันดร์ของ Dior ผ่านการใช้เทคนิคประดับกระเบื้องโมเสกผนวกเข้ากับงานฝีมืออันวิจิตรของช่างชาวไทย

เพื่อสะท้อนความหลงใหลในศิลปะของ Christian Dior สถานที่แห่งนี้ยังจัดแสดงผลงานจากศิลปินไทยผู้มีชื่อเสียง 9 คน ผสมผสานวัฒนธรรมและความชำนาญ ร่วมยลโฉม Dior Gold House และสัมผัสประสบการณ์อันน่าหลงใหลของ ‘อาณาจักรแห่งความฝัน’ ที่ได้รับการสร้างสรรค์ใหม่

Photo: Courtesy of Dior

(สามารถตามไปอ่านบทความ 'เปิดประตูสู่ความวิจิตรตระการตาของ Dior Gold House หนึ่งในแฟชั่น Destination ของประเทศไทย' ได้ที่นี่)

TAGS : Dior