นับตั้งแต่จำความได้ Helen Cammock เด็กสาวลูกครึ่งอังกฤษ-จาไมก้าเติบโตมาพร้อมกับความสงสัยในใจถึงความแตกต่างระหว่างชนชาติและสีผิวซึ่งส่งผลต่อการดำรงชีวิตของเด็กหญิงตัวน้อยอยู่เสมอ แม้เป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่เฮเลนตั้งคำถามถึงสีผิว เพศ ความร่ำรวยและความจน ไปจนถึงอำนาจและความอ่อนแอ เธอมองเห็นความเหลื่อมล้ำในสังคมมาตั้งแต่ยังเล็กจนแทบไม่รู้ตัวเลยว่าประสบการณ์ชีวิตเหล่านั้นกำลังหล่อหลอมให้เธอเติบโตเป็นศิลปินที่ประกาศจุดยืนเรื่องความเหลื่อมล้ำได้ทรงพลังจนคว้ารางวัล Max Mara Art Prize for Women 2018 รางวัลที่แบรนด์แฟชั่นสัญชาติอิตาลี Max Mara ร่วมกับ Whitechapel Gallery พิพิธภัณฑ์ชั้นนำของโลกที่ออกโรงสนับสนุนศิลปินหญิงมาโดยตลอด

โดยผลงานที่เฮเลนนำเสนอสำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากความโศกเศร้าในห้วงของจิตใต้สำนึกที่สะท้อนผ่านการใช้เสียง แสดงถึงความสูญเสียความรักและความหวังกับสังคม การเมือง ประวัติศาสตร์ และบุคคล ยิ่งไปกว่านั้นเธอนำเอาวัฒนธรรมและผลงานศิลปะขึ้นชื่อของชนชาติอิตาลีมาผสมผสานสอดแทรกในผลงานได้อย่างกลมกลืน ไล่ตั้งแต่โอเปร่า เพลงคลาสสิกและบทเพลงพื้นบ้าน บทกลอน งานเขียน การเต้นรำ และเรื่องราวในประวัติศาสตร์ของสตรีเมืองเครื่องหนัง ไปจนถึงผลงานคอลลาจที่สื่อถึงห้วงอารมณ์หมดอาลัยตายอยาก ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากความทรงจำในและประสบการณ์ชีวิตตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของตัวศิลปินทั้งสิ้น
เฮเลน แคมม็อกได้ชื่อว่าเป็นศิลปินที่มีความสามารถทางด้านศิลปะสื่อผสมและศิลปะอีกหลากหลายแขนง ไล่ตั้งแต่ภาพถ่าย บทประพันธ์ เขียนเพลง ภาพพิมพ์ ไปจนถึงศิลปะจัดวาง เอกลักษณ์ที่เป็นซิกเนเจอร์อันยากจะเลียนแบบของเธอคือชั้นเชิงในการเล่าเรื่องราวที่มีทั้งอิงประวัติศาสตร์และเรื่องแต่งที่ผูกโยงเข้ากับเหตุการณ์ปัจจุบันและสถานการณ์ทางการเมือง เธอยังได้รับอิทธิพลในการสร้างสรรค์งานศิลปะมาจากคนดังอย่าง Nina Simone, Philip Larkin, James Baldwin, Maya Angelou และ Walter Benjamin ซึ่งล้วนเป็นบุคคลสำคัญที่มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงต่อสังคมทั้งสิ้น
รางวัล Max Mara Art Prize for Women ซึ่งร่วมกับ Whitechapel Gallery นี้เป็นรางวัลที่มอบให้กับศิลปินหญิงมากความสามารถที่ยังไม่เคยมีนิทรรศการเดี่ยวเป็นของตัวเอง รางวัลสำหรับผู้ชนะคือโอกาสในการใช้ชีวิตและค้นหาแรงบันดาลใจในเมืองต่างๆ ของประเทศอิตาลีเป็นเวลา 6 เดือน ก่อนจะสร้างสรรค์ผลงานศิลปะจากทริปนี้ไปจัดแสดงต่อที่ Collezione Maramotti ในเมือง Reggio Emilia ประเทศอิตาลี โดยทริปของเฮเลนจะเริ่มต้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้ ไล่ตั้งแต่เมืองโบโลนญ่าและฟลอเรนซ์ เพื่อศึกษาสถาปัตยกรรม ศิลปะบาโรก บทเพลง ไปจนถึงวรรณกรรมและสังคม ต่อด้วยเวนิสและกรุงโรม ที่เฮเลนจะได้เรียนรู้เทคนิคงานภาพพิมพ์แบบอิตาลีดั้งเดิมและการแกะสลัก ส่วนที่ปาแลร์โม เธอจะไปคลุกคลีอยู่กับกลุ่มหญิงสาวซิซิเลียนผู้มีอดีตรอการถ่ายทอดมากมาย ปิดท้ายที่เรจจิโอ เอมิเลียกับต้นแบบความเป็นอยู่ในอุดมคติ
แฟนๆ รอชมผลงานของเธอจากแรงบันดาลใจใน 6 เมืองของอิตาลีได้เร็วๆ นี้ โว้กเตรียมรายงานส่งต่อแรงบันดาลใจถึงผู้หญิงทั่วโลก เช่นเดียวกับภารกิจของ Max Mara และ Whitechapel Gallery รวมไปถึงอุตสาหกรรมแฟชั่นโลก We are the same team!

Gentle Monster จับมือร่วมกับ Google ก้าวสู่ยุคใหม่แห่งโลกแฟชั่น เปิดตัวแว่น AI อัจฉริยะ!

ห้ามพลาด! Max Mara ขนเสื้อโค้ตชิ้นประวัติศาสตร์กว่า 90 ตัวมาจัดแสดงที่เกาหลี!

Exclusive! ดูก่อนใคร หนังสั้นเรื่องล่าสุดจาก Max Mara โดยผู้บรรยายจากหนังออสการ์


