Vogue Thailand

FASHION

Miu Miu จับมือคอสตูมดีไซเนอร์รางวัลออสการ์ 4 สมัย นำเสนอคอลเล็กชั่น ‘Miu Miu Upcycled’

Miuccia Prada ร่วมงาน Catherine Martin อีกครั้งเพื่อรังสรรค์การชุบชีวิตเสื้อผ้าเก่าให้มีชีวิตชีวาพร้อมจิตวิญญาณความอมตะ

โดย Nattanam Waiyahong
23 พฤษภาคม 2568

     โปรเจกต์ความสร้างสรรค์ของ Miu Miu โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘Miu Miu Upcycled’ ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากที่พร้อมชุบชีวิตเสื้อผ้าเก่าให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้พิเศษอย่างยิ่งเมื่อแบรนด์เลือกจับมือกับ Catherine Martin คอสตูมดีไซเนอร์ผู้ชนะรางวัลออสการ์ 4 สมัย มาร่วมสรรสร้างทั้งคอลเล็กชั่น แคมเปญ รวมถึงภาพยนตร์สั้นที่บอกเล่าเรื่องราวอย่างมีศิลปะภายใต้ชื่อ ‘Grande Envie’ ยิ่งทวีความน่าสนใจให้กับโปรเจกต์อัปไซเคิลที่มิวมิวริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2020

     แน่นอนว่าเมื่อนึกถึงเรื่องอัปไซเคิล มิวมิวเปิดโปรเจกต์นี้ขึ้นเพื่อชุบชีวิตชุดวินเทจให้กลับมามีสีสันอีกครั้ง โดยคัดเลือกจากร้านและตลาดวินเทจโดยเฉพาะจากทั่วโลก พร้อมสอดแทรกอัตลักษณ์ของมิวมิวสร้างสรรค์จนเกิดเป็นผลงานชิ้นใหม่ที่น่าสนใจและคงภาพความงดงามตามสไตล์ของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วนที่สุด มากไปกว่านั้นยังร่วมผลักดันแนวทางของโลกยุคใหม่กับการหยิบจับเสื้อผ้าเก่ามาสร้างมูลค่าและเปิดมิติความสร้างสรรค์ใหม่ๆ อย่างมีนัยสำคัญ

     แคทเธอรีนมุ่งเน้นเรื่องแนวทางการก้าวออกกรอบและค้นหาความอิสระอันสร้างสรรค์ โดยเธอหยิบยกแรงบันดาลใจจากผลงานเซ็ตภาพถ่ายของ Jacques Henri Lartigue เมื่อยุค 1920s ที่ถูกค้นพบช่วง 4 ทศวรรษให้หลัง (1960s) และกลายเป็นหัวใจสำคัญของคอลเล็กชั่นอัปไซเคิลครั้งใหม่ของมิวมิวด้วยเช่นกัน ซึ่งหลักคิดสำคัญคือการหยิบจับสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันมาผสมผสานให้เข้ากันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นชุดชั้นกับเสื้อยืดลายสไตรป์ ผ้าเดนิมกับชุดสำหรับงานกลางคืน ส่วนผสมที่อาจแตกต่างและไม่น่าจะเข้าได้กันกลับสามารถผนวกรวมกันได้อย่างงดงาม ทั้งยังคลุกเคล้ากันระหว่างมิติด้านฟังก์ชั่นและแฟชั่นอีกด้วย

     ย้อนกลับสู่แรงบันดาลใจจากยุค 1920s ตามเซ็ตภาพถ่าย แคทเธอรีนมองว่าเสน่ห์ของความคอนทราสต์มีความน่าสนใจ สิ่งเหล่านี้เป็นต้นกำเนิดของแฟชั่นหลากหลายรูปแบบ รวมถึงวิธีการสไตลิ่งที่ส่งอิทธิพลมากถึงโลกยุคปัจจุบัน ยิ่งมาเชื่อมสัมพันธ์เข้ากับคอลเล็กชั่นอัปไซเคิล วิถีการชุบชีวิตเสื้อผ้าเก่าให้กลายเป็นสิ่งลักชัวรีชั้นยอด สร้างสิ่งเลอค่าด้วยรักและความใส่ใจมากกว่าที่เคยเป็น เรื่องราวนี้ส่งผลถึงการรังสรรค์ภาพยนตร์สั้นที่ถ่ายทอดเรื่องราวในแถบตอนใต้ของฝรั่งเศสในยุคเดียวกัน ช่วงเวลาและสถานที่อันเต็มไปด้วยความคอนทราสต์แต่มีเสน่ห์ที่น่าสนใจ
 

     ส่วนภาพถ่ายแคมเปญอัปไซเคิลครั้งนี้นั้นได้รับการถ่ายทอดโดย Michael Bredahl ที่หยิบยกอารมณ์ความเหนื่อยล้ายามบ่ายมาปรุงแต่งใหม่ตามบริเวณต่างๆ ในชาโต นำเสนออารมณ์ความรู้สึกของคนรุ่นใหม่ที่เผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่คาดคิด สะท้อนเส้นเรื่องตามแนวคิดว่า “อดีต ปัจจุบัน และอนาคตยังคงเป็นสิ่งลี้ลับสำหรับคนทุกช่วงวัย” และแคทเธอรีนก็มีแนวคิดเสริมเกี่ยวกับอายุใช้งานของเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนแปลงไปด้วยภาษาแห่งความสร้างสรรค์ในการตีความและเนรมิตสิ่งใหม่ขึ้นมา แคมเปญนี้จึงไม่ใช่เพียงการบอกเล่าเรื่องราวความสวยงาม แต่มันเล่าถึงเรื่องราวเบื้องหลังเชิงประวัติศาสตร์ การรื้อฟื้นความสวยงาม ไปจนถึงแนวทางแห่งอนาคต โดยแคทเธอรีนที่ทำงานร่วมกับ Miuccia Prada มานานกว่า 3 ทศวรรษยังกล่าวถึงวิถีของแนวคิดและความสนใจที่เชื่อมโยงระหว่างเธอทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี