Vogue Thailand

Toner 101 เทคนิคการเลือกใช้โทนเนอร์ให้เหมาะกับสภาพผิว

การเลือกโทนเนอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวถือเป็นการเปิดทางให้สกินแคร์เข้าบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกมากขึ้น

โดย Panyabhassara Promchaiwattana
05 กรกฎาคม 2562

การที่จะให้สกินแคร์ซึมซาบเข้าสู่ผิวเพื่อบำรุงได้อย่างล้ำลึกนั้นต้องเกิดจากผิวที่พร้อมเสียก่อน เช่น การล้างทำความสะอาดผิวหน้าอย่างหมดจด ซึ่งนอกจากการเลือกเคลนเซอร์ที่ดีแล้วอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะเป็นขั้นแรกของการเปิดผิวให้พร้อมคือ “โทนเนอร์” เพราะไอเท็มนี้จะช่วยปรับค่า pH และเติมน้ำให้ผิวพร้อมรับกับสกินแคร์ที่จะลงในขั้นตอนต่อไป ฉะนั้นควรเลือกโทนเนอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวเพื่อปูทางให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่

ผิวแพ้ง่าย

แนะนำให้เลือกใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของโรสวอเตอร์ คาโมไมล์ สารสกัดจากแตงกวา เพื่อช่วยในการปลอบประโลมผิว และไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง

Article

Rose Water Toner จาก Mamonde (ราคา 750 บาท)

ผิวมันที่มีแนวโน้มเป็นสิว

ปัญหาที่มักมาคู่กับความมันบนผิวก็คือสิว ดังนั้นโทนเนอร์ที่จะช่วยเข้าปราบให้อยู่หมัด ควรต้องมีส่วนผสมของทีทรีออยล์ สารสกัดจากอะโลเวรา ชาเขียว สารสกัดจากดอกดาวเรือง และสารสกัดจากเกรปฟรุต

ผิวแห้ง

ขอให้หลีกเลี่ยงการใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากอะโลเวรา ดอกลิลี่สีขาว น้ำมันมะกอก น้ำผึ้งและวิตามินอี เหล่านี้จึงจะตอบโจทย์ปัญหาผิวมากที่สุด

Article

Glow Tonic จาก Pixi (ราคา 1,080 บาท)

ผิวผสม

สำหรับผิวผสมเป็นผิวที่ค่อนข้างมันแต่อาจจะยังขาดความชุ่มชื้นในบางส่วน จึงควรเลือกใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของกรด Salicylic ที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นสำหรับผิวผสม พร้อมช่วยกระชับรูขุมขนและขจัดสิ่งสกปรกภายในรูขุมขนให้ผิวสมดุลมากขึ้น

Article

Vinopure Clear Skin Purifying Toner จาก Caudalie (ราคา 1,035 บาท)

ผิวที่มีริ้วรอย

ควรเลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของสารที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างกรดไฮยาลูรอนิก เพื่อล็อกความชุ่มชื้นไว้ใต้ชั้นผิวอย่างยาวนาน จึงไม่ทำให้ผิวแห้งอันเป็นบ่อเกิดของริ้วรอย

Article

Benefiance Wrinkleresist24 Balancing Softener Enriched จาก Shiseido (ราคา 2,000 บาท)