Vogue Thailand

LIFESTYLE

เปิดวิธีเลือกประเภท 'โคมไฟระย้า' หรือ 'แชนเดอร์เลีย' มาแต่งบ้านให้สวยหรู

ทำความรู้จักโคมไฟระย้าประเภทต่างๆ และเทคนิคการเลือกใช้เหมาะกับสไตล์การตกแต่งบ้าน

โดย Vogue Thailand
17 มกราคม 2568

   เรื่อง: วราภรณ์ หงส์วรางกูร  

 

     การติด “โคมไฟระย้า” หรือ “แชนเดอร์เลีย” ในบ้าน ไม่เพียงเป็นการเพิ่มแสงสว่าง แต่ยังช่วยยกระดับความสวยงามให้กับตัวบ้านได้ทันที ไม่ว่าจะแขวนในห้องรับประทานอาหาร หรือติดบนเพดานห้องรับแขก โคมไฟระย้าก็พร้อมเพิ่มความหรูหราให้กับทุกพื้นที่ อย่างไรก็ตามโคมไฟระย้ามีให้เลือกหลายสไตล์ และหลายขนาด บทความนี้โว้กจึงจะพาไปทำความรู้จักโคมไฟระย้าประเภทต่างๆ และเปิดวิธีการเลือกให้เหมาะกับสไตล์การตกแต่งบ้านไปพร้อมกัน

 

Article

ภาพถ่ายโดย Nano Erdozain: https://www.pexels.com/th-th/photo/17028565/ 

โคมไฟระย้าแบบเทียน (Candle Chandeliers)

     “Candle Chandeliers” หรือที่เรียกว่า “โคมไฟระย้าแบบเทียน” เป็นรูปแบบการตกแต่งดั้งเดิม มักออกแบบมาให้มีส่วนต่อขยายอย่างน้อย 5 จุด โดยแต่ละจุดจะมีไฟที่ออกแบบเป็นรูปทรงที่เหมือนเทียนจริงๆ อยู่ส่วนปลาย โดยโคมไฟระย้าประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสไตล์เรียบง่ายแต่หรูหรา ข้อดีอีกอย่างของโคมไฟระย้าประเภทนี้คือมักจะมีขนาดที่ไม่ค่อยใหญ่มาก จึงสามารถติดตกแต่งในบ้านที่มีพื้นที่ไม่มากนักได้

 

Article

ภาพถ่ายโดย jovan curayag: https://www.pexels.com/th-th/photo/3393435/ 

โคมไฟระย้าคริสตัล (Crystal Chandeliers)

     หากอยากแต่งบ้านให้สวยวิจิตรและมีความอลังการ “โคมไฟระย้าคริสตัล” ย่อมตอบโจทย์อย่างยิ่ง โดยทั่วไปโคมไฟระย้าประเภทนี้จะมีรูปทรงที่กว้างมาก สร้างความหรูหราด้วยไฟที่สะท้อนผ่านคริสตัล สร้างแสงระยิบระยับไปทั่วพื้นที่ เหมาะสำหรับใช้ในห้องอาหารและห้องนั่งเล่น โดยสไตล์ของโคมไฟระย้าคริสตัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ “Raindrop chandelier” ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนกับชื่อ คือเป็นโคมไฟระย้าที่คริสตัลเรียงตัวกันเหมือนหยดน้ำของฝนนั่นเอง

 

Article

ภาพถ่ายโดย Nadin Sh: https://www.pexels.com/th-th/photo/20590887/  

โคมไฟระย้าแบบแก้ว (Glass Chandeliers)

     “โคมไฟระย้าแบบแก้ว” เป็นโคมไฟระย้าประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะดูแลรักษาง่ายและมีความทนทาน จุดเด่นคือใช้วัสดุหลักเป็นแก้ว ซึ่งมีเอกลักษณ์และสร้างความสวยงามจากรูปทรง สีสัน และลวดลายของแก้ว มีสไตล์ให้เลือกตั้งแต่แบบคลาสสิก มินิมัล โมเดิร์น ไปจนถึงวิจิตรตระการตา วิธีการเลือกก็ง่ายๆ แค่ต้องหารูปแบบที่เข้ากับมู้ดของห้องหรือพื้นที่นั้นๆ หรือเลือกแบบที่ใช้แก้วใสเพื่อให้แสงส่องผ่านได้อย่างเต็มที่ หากต้องการเน้นสร้างบรรยากาศที่โปร่งสบาย

 

Article

ภาพถ่ายโดย Vlada Karpovich: https://www.pexels.com/th-th/photo/6119569/ 

โคมไฟระย้าสไตล์โมเดิร์น (Modern Chandeliers)

     หากต้องการเลือกประเภทที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่ชื่นชอบความแตกต่างและไม่เหมือนใครคงหนีไม่พ้น “โคมไฟระย้าสไตล์โมเดิร์น” ที่จะให้ความรู้สึกที่ล้ำสมัยมากกว่า มักมาในสไตล์มีขอบที่คมชัดและรูปทรงเรขาคณิต ซึ่งดูเข้ากันได้อย่างลงตัวกับการตกแต่งบ้านในสไตล์มินิมัลที่ผู้คนนิยมกัน เพราะโคมไฟระย้าประเภทนี้มักเน้นความเรียบง่าย รวมถึงมีฟังก์ชั่นใช้งานที่ทันสมัย แตกต่างจากโคมไฟระย้าแบบดั้งเดิมที่มักมีลวดลายที่ซับซ้อนและเน้นดีไซน์ที่หรูหรามากกว่า 

 

Article

ภาพถ่ายโดย Curtis Adams: https://www.pexels.com/th-th/photo/16249142/ 

โคมระย้าแบบกรง (Caged Chandeliers)

     “โคมระย้าแบบกรง” เป็นงานออกแบบที่ซับซ้อนขึ้นมาอีกระดับ มีลักษณะเด่นคือการใช้โครงสร้างโลหะเป็นกรง เพื่อล้อมรอบไฟที่จะอยู่ตรงกลางกรงอีกที มองดูเหมือนสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ซึ่งด้วยขนาดและการออกแบบที่สวยงาม โคมไฟระย้าแบบกรงจึงเหมาะจะใช้ตกแต่งบริเวณทางเข้าบ้าน โดยแขวนไว้เหนือประตูในพื้นที่โล่ง เพื่อสร้างความประทับใจให้กับแขกผู้มาเยี่ยมเยือน นอกจากนี้ยังสามารถติดในห้องอาหารและห้องนั่งเล่นได้ แต่อาจไม่เหมาะกับห้องนอนมากนัก

 

เปิดวิธีเลือกประเภท 'โคมไฟระย้า' หรือ 'แชนเดอร์เลีย' มาแต่งบ้านให้สวยหรู