Chloé Spring/Summer 2024

RUNWAY

Chloé Spring/Summer 2025 คอลเล็กชั่นแห่งความหวัง ที่อาจทำให้เฮาส์ฝรั่งเศสกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

ถ้าหาก Chloé A/W 2024 มีความนุ่มนวลและเรียบง่าย คอลเล็กชั่นนี้กลับให้ความรู้สึกเหมือนการลุกขึ้นมาซุกซนขี้เล่นอย่างมีสไตล์ในชุดลูกไม้และพิมพ์ลายดอกไม้ ที่มีเสน่ห์พอจะทำให้ทุกคนหยุดมอง #Chloe #ChloeSS25

โดย Manit Maneephantakun
26 กันยายน 2567

     Chemena Kamali กับ Chloé S/S 2025 คือหนึ่งในความสำเร็จของการค้นฟ้าคว้าดาวที่สุดท้ายก็หากันจนเจอกับคนที่ใช่ในเวลาที่เหมาะสมของดีไซเนอร์ in-house ในแบรนด์แฟชั่นฝรั่งเศสยักษ์ใหญ่ที่รอวันกลับมาปังเช่นเคย ด้วยการผสมผสานที่แสนซุกซนระหว่างความไร้เดียงสาและพลังอันมั่นใจของเธอ พิสูจน์ชัดว่าตราบใดที่หาคนที่เข้าใจในตัวตนของแบรนด์ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะนำพาให้วันใหม่ๆ ของแบรนด์เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังใหม่อีกครั้งในเวลาเพียงแค่ชั่วข้ามซีซั่น คอลเล็กชั่นนี้เดินทางระหว่างสไตล์โบโฮชิคที่ดีไซเนอร์สาวนำกลับมาเล่าใหม่ได้อย่างสนุก และเต็มไปด้วยความฝันและความแข็งแกร่งทันสมัย ราวกับเด็กสาวโลลิต้าที่กำลังจะไปต้องประชุมกับ Kamala Harris ถ้าหาก Chloé A/W 2024 มีความนุ่มนวลและเรียบง่าย คอลเล็กชั่นนี้กลับให้ความรู้สึกเหมือนการลุกขึ้นมาซุกซนขี้เล่นอย่างมีสไตล์ในชุดลูกไม้และพิมพ์ลายดอกไม้ ที่มีเสน่ห์พอจะทำให้ทุกคนหยุดมอง

     ลูกไม้ที่ปรากฏในคอลเล็กชั่นนี้คือความแข็งแกร่งและน่าชื่นชมมากที่สุด มันเข้ามาขโมยซีนอย่างเต็มที่ด้วยชั้นระบายที่ลอยพลิ้วไหวบนรันเวย์ในกลิ่นอายยุค 70s ผสมผสานภาพฝันของทุ่งหญ้ากับเดรสสไตล์ชุดนอนที่พร้อมให้คุณใส่ออกไปใช้ชีวิตด้วยมุมมองที่สดใสสไตล์สาวมองโลกในแง่ดีอย่างมีความหวัง ส่วนลายดอกไม้ก็ไม่ใช่แค่ดอกไม้ธรรมดา พวกมันดึงดูดทุกสายตาเมื่อจับคู่กับเดรสทรงพาราชู้ตที่แม้จะดูโอเวอร์ไซส์ แต่กลับออกแบบให้พอดีกับรูปร่างอย่างน่าอัศจรรย์ นอกจากนี้ คามาลียังเพิ่มกลิ่นอายความร่วมสมัยขึ้นมาอีกนิด ทั้งชุดว่ายน้ำลายนกฟลามิงโก้ตัวเด่น กางเกงขาสั้น และครอปแจ็กเก็ต ทำให้เราเห็นการผสมผสานระหว่างความไร้เดียงสาและความจัดจ้านได้อย่างลงตัว และในขณะที่ Chloé ขึ้นชื่อเรื่องความสบายๆ ของสาวปารีเซียง ในซีซั่นนี้กลับมีลูกเล่นที่คาดไม่ถึงด้วยการใช้สีสันสดใสอย่างพีช เหลืองเบบี้คอร์น และน้ำเงินสด เฉลิมฉลองความขัดแย้งระหว่างความอิสระและความเท่ที่มาพร้อมกับซาวด์แทร็กสุดไพเราะประกอบในโชว์ที่ไล่ตั้งแต่เพลง Lorelei โดยศิลปินดัง Cocteau Twins, Valley of the Morning Sun โดย Kendra Smith, I Met the Beast โดย Martin Dupont จนถึงเพลงบรรเลงจาก Ennio Morricone ที่แต่ละเพลงคัดมาแล้วว่าจะเล่าเรื่องราวในโชว์ได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น

     และแน่นอนว่าเราไม่ลืมพูดถึง Power Suit ที่ในบัดนี้ได้กลายมาเป็นชุดเอกลักษณ์ชิ้นใหม่ให้กับแบรนด์เป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้คงต้องขอบคุณ Kamala Harris ที่หมั่นสวมใส่ขึ้นเวทีหาเสียงไปทั่วอเมริกาและถ่ายทอดสดไปทั่วโลก โดยเฉพาะเมื่อมันถูกนำเสนอบนโทนสีอ่อนและเข้มตัดสลับกับเหล่าบรรดาเดรสสั้นและยาวในโทนสีสวยทั้งม่วงไลแลคและชมพูฟูเชีย หนึ่งนาทีคุณอาจกำลังเพลิดเพลินกับความโบโฮชิคแบบไร้กังวล แต่ในนาทีต่อมา ความเฉียบคมของลุคขาวดำจะทำให้คุณกลับมาตั้งใจโฟกัสถึงลุคใหม่ๆ อีกอย่างไม่วางตา Chloé ส่งสารชัดเจนในครั้งนี้แล้วว่า ความหวานไม่ได้แปลว่าต้องอ่อนแอ และความสนุกก็สามารถมีด้านที่แข็งแกร่งได้ หากซีซั่นที่แล้วเน้นไปที่ความนุ่มนวล คอลเล็กชั่นนี้กลับสร้างสมดุลระหว่างความละเอียดอ่อนและความกล้าหาญในการนำเสนอมากขึ้น เดรสพาราชู้ตเป็นตัวอย่างที่ดีทั้งในความพองฟูแต่ก็ยังมีโครงสร้างชัดเจน ผสมผสานการเคลื่อนไหวและความมั่นคงได้อย่างลงตัว 

     Kamali ย้ำให้เห็นว่า Chloé สามารถย้อนกลับไปสู่ความคลาสสิกที่แบรนด์เคยสร้างสมมา ในขณะที่ยังคงความทันสมัยไว้อย่างแยบยล เหมาะกับผู้หญิงที่สามารถใส่ชุดสูทกางเกงตอนกลางวัน และเปลี่ยนเป็นเดรสสไตล์ชุดนอนตอนกลางคืน ผลงานในคอลเล็กชั่นนี้จึงแฝงไว้ด้วยความไร้เดียงสา อ่อนเยาว์ แต่ส่งเสียงแห่งความมั่นใจและชัดเจน แสดงให้เห็นว่าความสนุกและความมีพลังสามารถเดินเคียงคู่กันบนโลกแห่งแฟชั่นในยุคนี้ 

ภาพ : Carlo Scarpato / Gorunway.com ftom Vogue Runway