Vogue Thailand

ชีวิตต้องป๊อป: เมื่อคำหยาบคายและความรุนแรง กลายเป็นเรื่องธรรมดาบนสื่อ

ต้นเรื่องจริงๆ ไม่ได้เริ่มจากประเด็นร้อนของสาวคนดังในตอนนี้ เพราะมันเกิดขึ้นมานานพอสมควรแล้วล่ะ เรื่องคำหยาบคายและภาพที่รุนแรงบนสื่อในทุกวันนี้ ซึ่งมีให้เห็นตั้งแต่ในรายการโทรทัศน์ รายการทีวีออนไลน์ จนถึงโซเชียลมีเดีย และยิ่งทวีระดับความพีคมากขึ้นทุกทีๆ จนรู้สึก ‘เป็นห่วง’ เยาวชน สังคม หรือจะใช้คำว่าประเทศชาติก็ย่อมได้

โดย ณัฐวุฒิ แสงชูวงษ์
21 กันยายน 2560

     ต้นเรื่องจริงๆ ไม่ได้เริ่มจากประเด็นร้อนของสาวคนดังในตอนนี้ เพราะมันเกิดขึ้นมานานพอสมควรแล้วล่ะ เรื่องคำหยาบคายและภาพที่รุนแรงบนสื่อในทุกวันนี้ ซึ่งมีให้เห็นตั้งแต่ในรายการโทรทัศน์ รายการทีวีออนไลน์ จนถึงโซเชียลมีเดีย และยิ่งทวีระดับความพีคมากขึ้นทุกทีๆ จนรู้สึก ‘เป็นห่วง’ เยาวชน สังคม หรือจะใช้คำว่าประเทศชาติก็ย่อมได้ 

     ย้อนกลับไปตั้งแต่ปลายปีพ.ศ. 2549 ที่เราได้เห็นรายการโทรทัศน์มีการจัดเรตหรือสัญลักษณ์ที่แสดงระดับความเหมาะสมของคนดูปรากฏก่อนเข้ารายการและระหว่างที่รายการออก จากนั้นในปี 2556 ทางกสทช. ได้จัดเรตฉบับใหม่ลงในราชกิจจานุเบกขา โดยแบ่งออกเป็น 6 เรตคือ ป. (เด็ก 3-5 ขวบ), ด. (6-12 ปี), ท. (ทุกวัย), น.13 (13 ปีขึ้นไป), น. 18 (18 ปีขึ้นไป) และ ฉ. (เฉพาะ ไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน) ก็ยังเกิดประเด็นถกเถียงกันเรื่องความรุนแรงในรายการโทรทัศน์อยู่เป็นครั้งคราว เนื่องจากสาเหตุมาจากการที่ ‘สถานีโทรทัศน์แต่ละช่องทำการพิจารณาควบคุมรายการและกำหนดเรตเอง’ ซึ่งแน่นอนว่าวิจารณญาณและมาตรฐานของแต่ละช่องย่อมไม่เหมือนกัน หรือพูดให้แย่หน่อยก็คือ ‘ทำเข้าข้างช่องตัวเอง’

ฉากในละครเรื่อง บ่วงเสน่หา ที่ตัวร้ายพยายามทารุณฆ่านางเอกที่กำลังตั้งครรภ์อย่างโจ้งแจ้ง ได้เรท น. 13 ที่เหมาะกับผู้ชมวัย 13 ปีขึ้นไป

     ยกตัวอย่างละครเรื่อง บ่วงเสน่หา ที่ออกอากาศทางช่อง One 31 ฉากที่แจ๊ค ตัวร้ายในเรื่องพยายามทารุณฆ่านางเอกที่กำลังตั้งครรภ์อย่างโจ้งแจ้ง ได้แค่เรท ‘น. 13’ แถมยังออกอากาศเวลา 20.30-22.00 น. อีกต่างหาก, ละครเรื่อง หลงไฟ ของช่อง GMM25 ที่นางเอกกำลังขายบริการบนเตียง มีฉากถอดเสื้อผ้า และนำไปสู่การร่วมเพศ ก็ได้เรท ‘ท.’ ที่หมายถึงเหมาะกับผู้ชมทุกวัย! เช่นเดียวกับละคร เพลิงบุญ ที่เต็มไปด้วยฉากบนเตียงและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของตัวละคร ก็ได้เรท ‘ท.’ เช่นกัน นี่แค่ยกตัวอย่างแค่สามเรื่องนะ ยังมีละครตบตีแย่งผู้ชายอีกหลายเรื่องที่ได้เรท ‘ท.’ และออกอากาศเวลาสองทุ่มครึ่ง 

     การควบคุมคำหยาบคายและความรุนแรงยากขึ้นทุกที และแทบจะใกล้เคียงกับคำว่า “ทำไม่ได้” ในเมื่อทุกวันนี้ พื้นที่สื่อไร้พรมแดน รายการโทรทัศน์แทบทุกรายการก็ถูกนำไปฉายย้อนหลังในยูทูบหรือเฟซบุ๊ก ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือรายการโทรทัศน์ที่ผลิตมาเพื่อออกอากาศแบบออนไลน์โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะช่องทางใดก็ตาม ซึ่งยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้าไปควบคุมดูแลอย่างชัดเจนและจริงจัง ทุกครั้งมักจะต้องเกิดเรื่องหรือเกิดประเด็นดราม่าในโลกโซเชียลก่อน ถึงจะมีการวิ่งเต้นไปจัดการดำเนินคดี รายการเหล่านั้นแหละที่ไม่ต้องระวังเรื่องคำหยาบคายและเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมใดๆ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือหลายรายการพยายาม ‘ใช้คำหยาบคายเป็นจุดเด่น’ ที่ทำให้เกิดความตลก และนั่นทำให้การพูดจาหยาบคายกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปโดยปริยาย 

ฉากในละครเรื่อง หลงไฟ ที่นางเอกทำอาชีพขายบริการ ได้เรต ท. ที่เหมาะกับผู้ชมทั่วไป

     ถึงตรงนี้อย่าเข้าใจผิดว่าผมต่อต้านคำพูดหยาบคายหรือการแสดงเนื้อหาที่รุนแรงในรายการ (แต่ใช้ให้น้อยลงและเท่าที่จำเป็นก็ดี) ผมแค่พยายามบอกว่าผู้ผลิตรายการต้องเกิดสามัญสำนึกต่อสังคม ถ้าคุณรู้ว่ารายการคุณมีคำหยาบคายเยอะ ก็ใจใจไปเลยด้วยการจัดเรต น.18 และออกอากาศในช่วงเวลาดึก (หากเป็นรายการโทรทัศน์) ยกตัวอย่างเช่นรายการ เทยเที่ยวไทย ที่ได้เรต น.18 และออกอากาศเวลา 5 ทุ่ม รวมทั้งเซ็นเซอร์คำหยาบทุกคำในรายการ พร้อมแสดงสัญลักษณ์ตลกๆ แทน ถึงเราจะเดาได้ว่าเขาพูดว่าอะไร แต่อย่างน้อยก็เป็นการแสดงความรับผิดชอบอย่างหนึ่ง หลายคนอาจแย้งว่า ถึงจะจัดเรตติ้งของรายการแล้ว เด็กหรือเยาวชนก็สามารถชมได้อยู่ดี จริงอยู่ ไม่เถียง มันก็เหมือนกับเหล้าและบุหรี่นั่นแหละ แต่อย่างน้อยเราก็ควรมีเกณฑ์มาตรฐานและความรับผิดชอบต่อสังคมมากกว่านี้ 

     ผมยกตัวอย่างอีกเรื่องหนึ่งที่บ้านเรามองข้าม นั่นคือการฉายหนังตัวอย่างหรือเทรลเลอร์ในโรงหนัง คุณรู้ไหมว่าในต่างประเทศที่เคร่งครัดเรื่องการกำหนดอายุผู้ชมอย่างอเมริกาหรืออังกฤษ ถ้าหนังที่จะฉายในรอบนั้นเป็นเรต PG หรือ PG-13 (ในอังกฤษก็เป็นเรตอีกแบบ) หนังตัวอย่างที่ฉายก็ต้องไม่เกินเรตนั้นๆ แต่ในบ้านเรา ต่อให้เป็นหนังดิสนีย์เรต PG หนังตัวอย่างที่ฉายก็รุนแรงถึงขั้นเรต R หรือหนังไทย (บางเรื่อง) ที่หนังตัวอย่างเต็มไปด้วยคำหยาบคาย นี่ยังไม่พูดถึงว่าจริงๆ แล้วหนังตัวอย่างในระดับสากลต้องไม่มีภาพความรุนแรง (มีภาพยิงหรือฟันกันได้ แต่ต้องไม่เห็นผู้ถูกกระทำ) หรือคำหยาบคาย แต่ผู้สร้างก็มีหนังตัวอย่างที่เรียกว่า Red Band เป็นทางเลือก ซึ่งใส่ความรุนแรงได้มากขึ้น แต่จะไม่ถูกเผยแพร่แบบทั่วไป เรื่องนี้อาจไม่เกี่ยวกับรายการโทรทัศน์ แต่ก็เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นความใส่ใจอย่างเคร่งครัดในการจำกัดอายุคนดู

ฉากหนึ่งในละครเรื่อง หลงไฟ ที่ตัวละครหญิงสองคนตบตีกันอยู่นานหลายนาที ก็ได้เรท ท. ที่เหมาะกับผู้ชมทั่วไป

     ที่น่าเป็นห่วงอีกอย่างหนึ่งในบ้านเราคือ ‘รายการข่าว’ ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบดูรายการข่าวเพื่ออัพเดทเหตุบ้านการเมือง ซึ่งตอนนี้สถานีโทรทัศน์แทบทุกช่องมีรายการข่าว และแทบทุกช่องก็ทำเหมือนกันคือการนำคลิปวิดีโอที่กำลังเป็นคดีหรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่เป็นกระแสร้อนในโลกโซเชียลมาเผยแพร่ในรายการข่าวทางโทรทัศน์ ตรงนี้แหละ ถ้าคุณเป็นคนที่เสพข่าวทางโทรทัศน์บ่อยๆ จะเห็นภาพความรุนแรงสารพัดที่มาจากคลิปเหล่านี้และส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ผ่านการเซ็นเซอร์ ภาพคนทำร้ายกันจนปางตายหรือถึงขั้นเสียชีวิต คลิปวิดีโอที่คนตะโกนด่าทอกัน ภาพอุบัติเหตุที่รุนแรงจนมีผู้เสียชีวิต คลิปเหล่านี้ถูกนำมาฉายวนซ้ำแล้วซ้ำเล่าในทุกช่อง หากเนื้อหาของข่าวยาวห้านาที คลิปนี้ก็ถูกฉายวนไปวนมาอยู่อย่างนั้น หากเราเป็นญาติพี่น้องหรือคนรู้จักของผู้เสียชีวิตในคลิป คงไม่ต้องบอกว่ารู้สึกอย่างไร

     เราลืมไปแล้วหรือเปล่าว่าก่อนที่จะถึงยุคโซเชียลมีเดียครองโลก สมัยหนึ่งเราเสพข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ที่ต้องผ่านการพิจารณาหรือเซนเซอร์ภาพที่จะมาลง แค่เห็นร่างของผู้ตายเพียงแค่เศษเสี้ยวหรือภาพที่ไม่เหมาะสมก็ต้องทำการเซ็นเซอร์หรือห้ามตีพิมพ์ ด้วยวิจารณญาณของบรรณาธิการข่าวเอง แต่ในตอนนี้เราสามารถเผยแพร่คลิปวิดีโอนาทีที่คนฆ่ากันได้อย่างเป็นเรื่องปกติบนจอโทรทัศน์

ละครเรื่อง เพลิงบุญ ที่เต็มไปด้วยฉากบนเตียงและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของตัวละคร ได้เรท ท. ที่เหมาะกับผู้ชมทั่วไป

     ทั้งหมดนี้ผมยังไม่ได้พูดถึงการ ‘คอมเมนท์หยาบคาย’ ที่คนทั่วไปเข้าไปด่าทอคนดังที่คุณไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวเลยนะ นั่นคืออีกเรื่องที่น่าเป็นห่วงหนักเข้าไปอีก และพาลอดคิดไม่ได้ว่า โซเชียลมีเดียทำให้คนหยาบกระด้างขึ้น ในชีวิตจริง คนปกติคงไม่เดินเข้าไปหาใครคนหนึ่งแล้วตะโกนด่าคำหยาบคายใส่เขาใช่ไหม แต่ในโลกโซเชียลมีเดีย เรากลับทำได้แบบสะใจและไม่รู้สึกผิด

     อ่านบทความจบแล้วจะด่าผมว่า ‘โลกสวย’ ก็ได้ แต่บางครั้งก็เหลือพื้นที่ไว้ให้ ‘โลกสวย’ บ้างเถอะ