ทุกวันที่ 1 เมษายนของทุกๆ ปี ผู้คนทั่วโลกต่างรู้กันว่า นี่คือวันแห่งการโกหก หลอกลวง จะต้องโดนแกล้งหาเรื่องมาอำกันอย่างสนุกสนาน แล้วค่อยมาเฉลยทีหลังว่ามันคือการโกหก! โดยคนที่โดนแกล้งจะต้องไม่ถือโทษโกรธเคืองกัน เพราะนี่คือวันเอพริลฟูลส์เดย์ (April Fool’s Day) ซึ่งถือเป็นวันแห่งการยกเว้นในการโกหกต่อกันและกัน แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วแทบไม่มีใครที่รู้ถึงที่มา และเหตุผลที่แท้จริงของการมีวันนี้โดยเฉพาะ มีไปทำไม และมีไปเพื่ออะไร ถ้าอยากรู้ คุณจะได้คำตอบในบทความนี้!
ย้อนกลับไปในอดีตของประเทศฝรั่งเศส ยุคศตวรรษที่ 16 สมัยนั้นชาวฝรั่งเศสมีวันปีใหม่ตรงกับวันที่ 1 เมษายน แต่แล้วเมื่อกาลเวลาได้เปลี่ยนไปจนถึงปี 1562 สมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 1 (โป๊ป เกรกอรี) ก็ได้เปลี่ยนวันปีใหม่สำหรับชาวคริสต์ทั่วโลกให้มาเป็นวันที่ 1 มกราคม เพื่อเฉลิมฉลองแทนวันเก่าที่เคยมีมาแต่ก่อน
ภาพสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 1 (โป๊ป เกรกอรี)
แต่ในยุคนั้นเทคโนโลยียังโบร่ำโบราณมาก ไม่ได้ก้าวไกลเท่าทุกวันนี้ ข่าวสารในการเปลี่ยนแปลงวันปีใหม่จึงไม่ได้แพร่กระจายไปเป็นวงกว้าง ชาวบ้านที่อยู่บ้านนอกไกลเมืองของฝรั่งเศสหลายกลุ่มจึงไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงวันปีใหม่นี้ และแม้บางคนได้ยินแล้วก็ไม่ได้ปักใจเชื่อ จึงยึดถือฉลองวันปีใหม่เป็นวันที่ 1 เมษายนตามเดิม
ทำให้ชาวเมืองในฝรั่งเศสยุคนั้นเย้ยหยันทำเหมือนเรื่องนี้เป็นเรื่องตลก และพยายามแกล้งโกหกคนกลุ่มนี้ตลอดเวลาเมื่อวันที่ 1 เมษายนเวียนมาถึงในทุกๆ ปี จึงกลายเป็นเหตุผลที่ว่า จะแกล้งโกหกหลอกลวงอะไรใครในวันนี้ก็ได้ทั้งนั้น
และนี่จึงเป็นเรื่องราวที่มาของวันแห่งการโกหกนี้ อย่างไรก็ตามแม้ว่าการหลอกลวงในวันนี้จะทำให้ไม่สามารถโกรธเคืองกันได้ แต่ขอแนะนำว่าให้เล่นอย่างพอหอมปากหอมคอก็พอ อย่าให้เกินขอบเขตที่ไม่พอดิบพอดี จนกระทบต่อการงานและเรื่องสำคัญ จะเป็นการดีที่สุดในวันนี้ครับ
